วันจันทร์, กุมภาพันธ์ 03, 2557

นิสัยและทัศนคติของคนไทยที่ควรแก้

ผมว่าผมจะรวบรวม นิสัยที่คนไทยควรแก้ เผื่อจะลดหายนะ ก่อประโยชน์และความสุขในสังคมที่ร่วมกันอยู่ได้บ้างนะครับ ผมอาจจะเขียนตรงและแรงไป แต่ถ้าคิดว่าอ่านแล้วรับได้ เชิญเลยครับ

นิสัยและทัศนคติของคนไทยที่ควรแก้

1.   ชอบดูถูกคนอื่น อะไรไม่รู้แหละดูถูกไว้ก่อน ถ้ามันไม่ตรงกับความชอบหรือความเห็นตัวเอง
2.   พอดูถูกแล้วก็จะซ้ำเติม ใครผิดนี่จะเหยียบซ้ำ เพื่อความฟินของตนเอง
3.   กลัวโดนหาว่าโง่ที่สุด ข้อนี้ต่อเนื่องมาจาก 2 ข้อบนครับ เนื่องจากตนชอบดูถูกคนอื่น ก็จะใช้ตนเองเป็นพื้นฐานตัดสินในใจลึกๆ โดยไม่รู้ตัว ว่าคนอื่นก็ต้องคิดว่าตนโง่เช่นกันถ้าแสดงความไม่รู้ออกไป
4.   และเมื่อกลัวโดนหาว่าโง่ ทั้งๆ ที่ตนไม่รู้ ก็จะตอบรับ เออออห่อหมก ปิดบังความไม่รู้ของตน ด้วยการ (ต่อข้อ 5)
5.   แถ...แถได้ทุกสิ่งอัน แถมันไปเรื่อยๆ เนื่องจาก....(ต่อข้อ 6)
6.   ไม่ยอมรับว่าตนผิด เพราะกลัวข้อ 3 ครับ กลัวถูกหาว่าโง่ เนื่องจากในใจลึกๆ ก็รู้ดีว่าคนส่วนใหญ่นิสัยแบบข้อ 1 ก็เลยทำยังไงก็ได้ให้ตัวเองไม่ผิด และต่อเนื่องไปถึงข้อ 7
7.   ไร้ซึ่งความรับผิดชอบต่อตัวเองและผู้อื่น คนบางคน ทำงานพลาด เจ้านายหรือลูกค้าจะถามถึงสาเหตุ หรือการแก้ไข แต่มักจะตอบว่าไม่รู้ ไม่ทราบ ทั้งๆ แค่ใช้ความคิดเสนอวิธีแก้ปัญหา หรืออย่างน้อยที่สุดคือแสดงความพยายามรับผิดชอบด้วยการตอบว่า “แล้วจะหาคำตอบให้” เท่านี้ก็พอแล้ว แต่....ไม่ทำ หรือไม่ก็โยนไปให้คนอื่น แผนกอื่น ซึ่งสาเหตุอาจจะมากับข้อ 6
8.   ย้อนกลับไปที่ข้อ 3 เนื่องจากกลัวคนดูถูก ก็จะกลายเป็นว่าบางคน ไม่กล้าทำอะไร ไม่กล้าแสดงออก ไม่กล้าแม้แต่จะถามคำถามที่ตนสงสัยเพราะกลัวถูกหาว่าโง่

ทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้ (ซึ่งอันที่จริงผมคิดว่ามันมีเยอะกว่านี้) เป็นทัศนคติที่ผมคิดว่าคนไทยควรแก้ไขเป็นที่สุด เพราะมันแสดงให้เห็นถึงความไร้ความรับผิดชอบ เห็นแก่ตัว มักง่าย ไม่เคารพผู้อื่น ปิดกั้นการพัฒนา และก่อหายนะแก่หน่วยเล็กๆ จนไปถึงระดับประเทศเลยล่ะครับ

ผมเองไม่ใช่เทวดา การที่ผมออกมาชี้แบบนี้ก็ดูเหมือนอวดดีและกล่าวหาด้านเดียวครับ ผมทราบ แต่ผมว่าลึกๆ แล้วพวกท่านเองก็น่าจะทราบดีว่าปัญหาเกิดจากอะไร แต่ด้วยวัฒนธรรมไม่เป็นไร ที่ผมเขียนขึ้นมาก่อนหน้านี้ ทำให้หลายคนเมินเฉย ไม่รับรู้ต่อปัญหา ปัญหาจึงไม่ได้ถูกแก้

ถึงผมเพิ่งจะมีชีวิตอยู่ไม่กี่ปี ยังน้อยถ้าเทียบกับผู้ใหญ่อีกเป็นพันล้านคน แต่ผมก็พอจะเข้าใจว่าปัญหาใหญ่ๆ มันก็เหมือนแม่น้ำ มันเกิดมาจากจุดเล็กๆ ที่ทุกคนมองข้ามกันทั้งนั้น

เคยมีคนพูดว่า ก่อนจะเริ่มแก้ปัญหา คุณต้องมองเห็นและยอมรับเสียก่อนว่ามันมีปัญหา ตามสภาพความเป็นจริง คนเป็นฟันเฟืองผลักดันสังคมครับ เฟืองเล็กๆ เพี้ยนไปตัวเดียว ก็พากันเพี้ยนทั้งระบบได้

การแก้ไขปัญหาทุกอย่างเริ่มได้จากหันมามองตัวคุณเองครับ

96

วัฒนธรรม “ไม่เป็นไร” ที่เขียนขึ้นก่อนหน้านี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น