ผมว่าผมจะรวบรวม
นิสัยที่คนไทยควรแก้ เผื่อจะลดหายนะ ก่อประโยชน์และความสุขในสังคมที่ร่วมกันอยู่ได้บ้างนะครับ
ผมอาจจะเขียนตรงและแรงไป
แต่ถ้าคิดว่าอ่านแล้วรับได้ เชิญเลยครับ
นิสัยและทัศนคติของคนไทยที่ควรแก้
1.
ชอบดูถูกคนอื่น อะไรไม่รู้แหละดูถูกไว้ก่อน
ถ้ามันไม่ตรงกับความชอบหรือความเห็นตัวเอง
2.
พอดูถูกแล้วก็จะซ้ำเติม ใครผิดนี่จะเหยียบซ้ำ เพื่อความฟินของตนเอง
3.
กลัวโดนหาว่าโง่ที่สุด ข้อนี้ต่อเนื่องมาจาก 2 ข้อบนครับ
เนื่องจากตนชอบดูถูกคนอื่น ก็จะใช้ตนเองเป็นพื้นฐานตัดสินในใจลึกๆ โดยไม่รู้ตัว ว่าคนอื่นก็ต้องคิดว่าตนโง่เช่นกันถ้าแสดงความไม่รู้ออกไป
4.
และเมื่อกลัวโดนหาว่าโง่ ทั้งๆ ที่ตนไม่รู้ ก็จะตอบรับ เออออห่อหมก
ปิดบังความไม่รู้ของตน ด้วยการ (ต่อข้อ 5)
5.
แถ...แถได้ทุกสิ่งอัน แถมันไปเรื่อยๆ เนื่องจาก....(ต่อข้อ 6)
6.
ไม่ยอมรับว่าตนผิด เพราะกลัวข้อ 3 ครับ กลัวถูกหาว่าโง่
เนื่องจากในใจลึกๆ ก็รู้ดีว่าคนส่วนใหญ่นิสัยแบบข้อ 1 ก็เลยทำยังไงก็ได้ให้ตัวเองไม่ผิด
และต่อเนื่องไปถึงข้อ 7
7.
ไร้ซึ่งความรับผิดชอบต่อตัวเองและผู้อื่น คนบางคน ทำงานพลาด
เจ้านายหรือลูกค้าจะถามถึงสาเหตุ หรือการแก้ไข แต่มักจะตอบว่าไม่รู้ ไม่ทราบ ทั้งๆ
แค่ใช้ความคิดเสนอวิธีแก้ปัญหา หรืออย่างน้อยที่สุดคือแสดงความพยายามรับผิดชอบด้วยการตอบว่า
“แล้วจะหาคำตอบให้” เท่านี้ก็พอแล้ว แต่....ไม่ทำ หรือไม่ก็โยนไปให้คนอื่น
แผนกอื่น ซึ่งสาเหตุอาจจะมากับข้อ 6
8.
ย้อนกลับไปที่ข้อ 3 เนื่องจากกลัวคนดูถูก ก็จะกลายเป็นว่าบางคน
ไม่กล้าทำอะไร ไม่กล้าแสดงออก ไม่กล้าแม้แต่จะถามคำถามที่ตนสงสัยเพราะกลัวถูกหาว่าโง่
ทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้
(ซึ่งอันที่จริงผมคิดว่ามันมีเยอะกว่านี้)
เป็นทัศนคติที่ผมคิดว่าคนไทยควรแก้ไขเป็นที่สุด
เพราะมันแสดงให้เห็นถึงความไร้ความรับผิดชอบ เห็นแก่ตัว มักง่าย ไม่เคารพผู้อื่น ปิดกั้นการพัฒนา
และก่อหายนะแก่หน่วยเล็กๆ จนไปถึงระดับประเทศเลยล่ะครับ
ผมเองไม่ใช่เทวดา
การที่ผมออกมาชี้แบบนี้ก็ดูเหมือนอวดดีและกล่าวหาด้านเดียวครับ ผมทราบ
แต่ผมว่าลึกๆ แล้วพวกท่านเองก็น่าจะทราบดีว่าปัญหาเกิดจากอะไร
แต่ด้วยวัฒนธรรมไม่เป็นไร ที่ผมเขียนขึ้นมาก่อนหน้านี้ ทำให้หลายคนเมินเฉย
ไม่รับรู้ต่อปัญหา ปัญหาจึงไม่ได้ถูกแก้
ถึงผมเพิ่งจะมีชีวิตอยู่ไม่กี่ปี
ยังน้อยถ้าเทียบกับผู้ใหญ่อีกเป็นพันล้านคน แต่ผมก็พอจะเข้าใจว่าปัญหาใหญ่ๆ
มันก็เหมือนแม่น้ำ มันเกิดมาจากจุดเล็กๆ ที่ทุกคนมองข้ามกันทั้งนั้น
เคยมีคนพูดว่า
ก่อนจะเริ่มแก้ปัญหา คุณต้องมองเห็นและยอมรับเสียก่อนว่ามันมีปัญหา
ตามสภาพความเป็นจริง คนเป็นฟันเฟืองผลักดันสังคมครับ เฟืองเล็กๆ เพี้ยนไปตัวเดียว
ก็พากันเพี้ยนทั้งระบบได้
การแก้ไขปัญหาทุกอย่างเริ่มได้จากหันมามองตัวคุณเองครับ
96
วัฒนธรรม
“ไม่เป็นไร” ที่เขียนขึ้นก่อนหน้านี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น